วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กระจกอาถรรพ์ !!

ชายคนหนึ่งได้รับมรดกจากคุณพ่อที่อยุธา ที่พึ่งเสียชีวิต เค้าเป็นลูกชายคนเดียวตอนนั้นอายุได้23ปีพึ่งลาสมณะเพศออกมาไม่นานพ่อก็ตายหลังพิธีศพพ่อเค้าได้รับมรดกทั้งหมดที่บ้านที่อยุธา เค้ามีแม่วัย67ปีและภรรยา เค้าจึงตัดสินใจย้ายบ้านจากเขตพระนครไปพักร้อนที่อยุธา เดิมบ้านนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ ของพ่อเค้ามีอายุได้ร้อยกว่าปี
เป็นบ้านทรงไทยปรับปรุงมาหลายครั้งวันที่เค้ามาถึวได้สำรวจภายในบ้านซึ่งสกปรกมากเค้ากับแม่และภรรยาจึงช่วยกันทำความสะอาด ในบ้านมีของเก่าอยู่ไม่กี่อย่าง เพราะแต่ละอย่างชำรุดบ้าง ขายบ้าง จนเหลือไม่เยอะเป็นองสำคัญจริงๆ
มีพระเครื่องทองคำ มีอัฐิบรรบุรุษทั้งหมดในตระกูลตั้งแต่รุ่นคุณปู่ และที่แปลกใจมีกระจกบานหนึ่งมีผ้าคลุมอยู่เปิดออกมาเป็นกระจกบานใหญ่ มีไม้สลักจำลักหลายอยู่รอบกระจก ซึ่งไม่ทราบว่ามีมาตั้แต่เมื่อใด คุณแม่จำได้บ้างว่าเคยเก็บไว้ที่ห้องเก็บนานแล้ว ไม่ทราบว่ามาอยู่ที่นี่เมื่อใด (ในห้องนอน)กระจกนี้ตรงข้ามกับเตียงนอนในห้องนอน
กระจกอาถรรพ์
เค้ากับภรรยาเลือกที่จะนอนห้องที่มีกระจก ส่วนแม่นอนห้องข้างๆเนื่องจากปี2531ในตอนนั้นอยุธาในตอนนั้นบรรยากาศเงียบสงัด และไฟฟ้ายังไม่สว่างและดูเปลี่ยวมองไปมีแต่ทุ่งนา กลางคืนอากาศเย็น พอเหมาะที่บ้านนี้ไม่ใด้ต่อไฟฟ้าและน้ำประปามานานเค้าว่าจะอยู่แค่3วันแล้วจะกลับบ้านที่เขตพระนคร
กลางคืน ในคืนนั้นเวลาประมาณตี1 เค้าได้ยินเสียวหวีผมตื่นขึ้นมาเห็นผู้หญิงแต่งกายสวยงามหวีผมยาวที่หน้ากระจก เค้าแปลกใจขึ้นมาดู แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากกระจกมืดๆ พอหันไปดูภรรยาเค้าเห็นภรรยายังอยู่นอนอยู่เค้าจึงไม่สนจนและหลับไป เวลาประมาณตี 2 เค้าตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะปวดห้องน้ำแต่สิ่งที่เค้าพบเห็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่งผมยาวมองจ้องอยู่ในภาพในกระจกเค้าถึงกับอึ้ง เค้าทนนอนคลุมโปรงไปจนรุ่งเช้า
เค้ารีบไปบอกแม่และภรรยา ทั้งแม่และภรรยาไม่มีใครรู้เรื่องอะไร เค้าจึเดินเข้าไปในห้องพระและที่เก็บอัฐิบรรบุรุษ
พบโกศจำนวนมากเละรูปขาวดำปิดทองคำเปลว มีรูปหนึ่งเป็นหญิงสาวผมยาวเป็นภาพเขียนสีเก่าจนกระดาษกรอบ
เป็นผู้หญิงคนนั้นที่เห็นเธอคือใคร? จึงเรียกเม่มาดูภาพถ่ายนั้น แม่จำได้เรือนรางว่าพ่อเคยเล่าให้ฟังคุณปู่ของพ่อเจ้าบ้าน
เป็นคนมีฐานะดีในยุคนั้น ทำโรงงานหล่อพระ
คุณปู่ยังหนุ่มๆมีภรรยามากทั้งเมียผู้ดีและเมียทาส มีทาสคนหนึ่งเป็นแม่ม่ายผมยาว ลูกติดถูกส่งให้มาเป็นเมียทาสอย่างไม่ได้เต็มใจเลย เธอเป็นคนโปรดที่สุดจนคนปู่ของพ่อจ้างช่างวาดชาวอังกฤษฝีมือดีมาวาดรูปด้วยความรัก เต่เธอไม่มีความรักอะไรกับคุณปู่เลย เพราะเธอมีคนรักอยู่อีกคนแล้ว คนรักเธอมีภรรยาใหม่ เธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายเธอร้องไห้ไปหวีแต่งหน้าที่สวยที่สุดผมแล้วส่องกระจกดูหน้าตัวเองครั้งสุดท้ายและฆ่าตัวตายด้วยมีดเธอตาย
คุณปู่เสียใจมากให้แล้วให้นำกระจกบานนี้ไปเก็บที่ห้องเก็บของตั้งแต่นั้นมา คุณปู่เสียใจและป่วยตายในที่สุด สมบัติตกมาที่คุณพ่อ แต่คุณพ่อไม่สนใจบ้านหลังนี้เลย เลยไปซื้อที่ดินปลูกบ้านที่เขตพระนคร มาบ้างเป็นบางครั้ง บางครามาดูและบ้านไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ซึ่งเป็นแค่เรื่องเล่ามาที่คุณแม่แค่ฟังผ่านพอจับใจความสำคัญ
แต่สาเหตุที่เธอยังวนเวียนนี่ยังไม่มีใครทราบเป็นปมสุดท้ายของบ้านหลังนี้ยังไม่มีใครรู้
และมีความเชื่อว่าถ้าใครมาส่องกระจกบานนี้พร้อมแอปเปิ้ลแล้วปลอกแอปเปิ้ลตอนเที่ยงคืน จะพบกับเนื้อคู่แต่เนื้อคู่นั้นแต่ทว่าเป็นผีนั่นเอง
ชาวบ้านเล่าว่าก่อนที่เค้าจะมามีผู้หญิงมายืนที่หน้าต่างเรียกให้ชาวบ้านนำกระจกขึ้นมาก่อนเค้ามา2วันเท่านั้นชาวบ้านผวาจึงช่วยนำกระจกที่วางอยู่ที่ห้องเก็บของใต้ถุนบ้านขึ้นมาไว้ข้างบนห้องที่เค้านอน
เธอต้องการอะไรกันแน่ ?
ปมสุดท้ายเป็นยังใง?
วันหนึ่งเค้าได้ฝันว่าผู้หญิงคนนั้นเเละเหตุการณ์ในคืนนั้น
เธอไม่ใด้ฆ่าตัวตาย เเต่เธอถูกฆาตกรรม เพราะเเฟนรักของเธอลักลอบมาหาเธอเเต่กลับมาบอกว่าจะเเต่งงานใหม่ เธอจึงโกรธเเละจะเเฉเหมือนกันว่าเเฟนรักของเธอลักลอบเป็นชู้ระหว่างที่เธอนั่งส่องกระจกเเละร้องไห้ไปด้วยตาเธอจ้องมองกระจก เเฟนเธอนำมีดมาด้วยความขาดสติจึงพลั้งมือเเทงเธอไปเต็มเเรง จนเธอสิ้นใจคากระจกบานนั้น
เเฟนเธอลักลอบหนีไป รุ่งเช้าคุณปู่รู้จึงเสียใจมากเเละสั่งให้ทำศพเธอหลังสิ้นงานศพ คุณปู้ก็ป่วยจนสิ้นใจ
บ้านหลังนี้พร้อมสมบัติพร้อมกระจกอาถรรพ์ที่ไม่มีใครรู้ประวัติ มีเเต่คำบอกเล่าที่คลาดเคลื่อนถึงการตายเเบบเรือนรางเล่าต่อมาเเบบผิดๆ
ใครที่มองกระจกบานนี้จะรู้สึกว่ามีคนจ้องมองจากข้างในอยู่ตลอดเวลา

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บล็อกน่าสนใจ

1.บล็อกเกี่ยวกับ10สิ่งลี้ลับในดินแดนพิศวง
http://.picshin.blogspot.com
2.บล็อกเกี่ยวกับเพื่อนๆในห้องป6/2 โรงเรียนอนุบาลระนอง
3.บล็อกเกี่ยวกับสุนัข
4.บล็อกเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์
5.บล็อกเกี่ยวกับประโยชน์ของผักผลไม้5สี



วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โรงพยาบาลผี

โรงพยาบาลเอกชน อ.เมือง จ.ระยอง
ลือ "รพ.ผีสิง" หลอก เห็นคนเข็นเตียงคนไข้เดินไปมา

ลือ ผีดุ -โรงพยาบาลเอกชน อ.เมือง จ.ระยอง ถูกทิ้งรกร้างหลังโดนสั่งปิดไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน ชาวบ้านร่ำลือกันว่าผีดุ และเคยเห็นอะไรแปลกๆ ทำให้มีวัยรุ่นแอบเข้าไปลองของ บางรายเจอของจริงวิ่งหน้าตั้งหนีแทบไม่ทัน ตามข่าว
ขนลุกกันทั้งเมือง "โรงพยาบาลผีสิง" หลอกหลอนผู้คนจนร่ำลือทั้งระยอง เป็นโรงพยาบาลเก่าที่หยุด กิจการปล่อยให้ร้างมา 3-4 ปี ทิ้งตู้ยาเตียงคนไข้ไว้เกลื่อน ประตูหน้าต่างกระจกแตก ผู้คนที่ผ่านไป มาบางคนเห็นรถพยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออก เห็นคนเข็นเตียงคนไข้เดินไปมา ได้ยินเสียงคนไข้ร้องโหยหวน ทั้งๆ ที่ตึกทั้งตึกไม่มีใครอยู่ รกร้างมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด จนไม่มีใครกล้าผ่าน ขณะเดียวกันก็มีคนเข้าไปพิสูจน์เป็นระยะๆ แต่ก็ต้องวิ่งหน้าตาตื่นตัวสั่นออกมาแทบทุกคน หลายคนบอกถูกตบหัว
เมื่อ วันที่ 1 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านร่ำลือกันไปทั่วเมืองระยองว่า มีผีอาละวาดเที่ยวตามหลอกหลอนผู้คนที่เดินทางผ่านไปม าจนหวาดผวาไปตามๆ กัน ที่โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ชื่อโรงพยาบาลเอกชน ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ริมถนนสาย 36 โดยเสียงร่ำลือของชาวบ้านบอกว่าเห็นผีเข็นรถคนไข้เดิ นไปมาภายในโรงพยาบาล และมีเสียงร้องโหยหวนชวนให้ขนลุกขนพองอย่างยิ่ง จนไม่มีใครกล้าเดินผ่านเส้นทางดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นก ลางวันหรือกลางคืน
รายการวิทยุบุกพิสูจน์ร.พ.ระยอง ล่าสุดรายการเดอะช็อกบุกพิสูจน์ ถ่ายทำแบบปูพรมทุกห้อง ไปเจอเรื่องผิดปกติที่ห้องเก็บศพ ขณะจะเข้าไป
มีเสียงเหมือนลูกบิดเปิดจากข้างในห้อง แต่พอเปิดออกดูกลับไม่พบใคร
ส่วน โจ๋ที่เข้าไปพิสูจน์เผ่นแน่บออกมา 2 ราย รายแรกเพื่อนๆ อ้างไปเจอ มือขนาดใหญ่โผล่มาระหว่างเข้าไป ส่วนอีกรายอ้างเจอมือผีบีบศีรษะ
จาก กรณีที่ข่าวสดเสนอข่าวเกี่ยวกับโรงพยาบาลเอกชนจัง หวัดระยอง มีชาวบ้านพบเห็นความเฮี้ยนตลอดเวลา ล่าสุดทีมงานรายการ "เรื่องจริงผ่านจอ"
นำอาจารย์ชื่อดังมาถ่ายภาพด้วยกล้องไฮเทค ปรากฏว่าพบพลังงานลึกลับถึง 11 จุดตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 12 ก.ค.นายโก้ พลิ้ว ทีมงานรายการเดอะช็อก ที่ออกอากาศทางคลื่นขส.ทบ.กรุงเทพเดินทาง
มาพิสูจน์ความเฮี้ยนอีกครั้งและรายงานสดออกอากาศขณะถ ่ายทำด้วย
การ เดินทางมาครั้งนี้ทีมงานได้นำคณะมาจำนวน 7 คน มีนายสุชาติ พฤษศานิตย์ เป็นผู้ดูแล คอยพาเข้าตามจุดต่าง ๆ จนครบทุกห้อง ซึ่งการมาทำรายการครั้งนี้ ทางผู้จัดทำรายการ คือนายต๋องสั่งทีมงานเดินทางมาถ่ายภาพทุกห้อง
แบบปูพรมเพื่อจะนำมาล้างและดูสิ่งที่พบว่ามีดวงวิญญา ณติดมาหรือไม่
โดยทีมงานกล่าวว่าการเดินทาง มาถ่ายครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการถ่าย แบบปูพรมเพราะไม่เคยทำที่ไหนมาก่อนแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นต่อหน้าทีมง าน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คนได้หามเพื่อนและวิ่งออกมาจากประตูด้านหลัง
ก่อนที่จะวางลงกับพื้น และรีบให้เพื่อนอีกคนนำรถยนต์ที่มาขับออกไปส่ง ร.พ.ระยอง โดยมีน้ำลายฟูมปากและชักเป็นระยะๆ หลังจากได้มีการ
ปฐม พยาบาลและฟื้นขึ้นมายังมีอาการหวาดกลัวอยู่ตลอดเว ลา และยกมือไหว้ท่วมหัวตะโกนว่ากลัวแล้วอย่าทำผมเล ย โดยได้สอบถามเพื่อนๆที่มาด้วยกันทราบชื่อว่านาย ไก่ ไม่ยอมบอกนามสกุล ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ระยอง
โดยเพื่อนๆ นายไก่เล่าว่าพวกตนเองมาพิสูจน์ผีหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เจอเสียที ครั้งนี้นายไก่ได้ชวนมาอีก และบอกว่าตนเองมีวิชาปราบผี
ให้ทุกคนทำตาม ก่อนที่จะเดินทางมาถึง พอเดินทางถึงนายไก่ ก็ได้ลงรถ
ซื้อเทียนจำนวน 9 เล่ม ธูป อีก 1 กำ และแลกเหรียญบาทอีกจำนวนหนึ่ง
พร้อม กับเตรียมด้ายสายสิญจน์มาหนึ่งขด ก่อนที่พวกตนเองทั้งหมดจะเข้าไปในห้องเก็บศพด้านหลัง ซึ่งมีต้นโพ นายไก่ได้ทำพิธีโรยสายสิญจน์เป็น
ทางยาวจากหน้าประตูเข้าไปได้บอกว่าจะให้ผีเดินตามเส้ นด้ายสายสิญจน์
หลังจากนั้นทุกคนก็หยุดนั่งล้อมวงกันที่ในห้องล้างศพ ทำการจุดเทียนจุดธูปและยกมือไหว้
เพื่อนๆ นายไก่เล่าต่อไปว่า เมื่อพร้อมแล้ว นายไก่ก็ลงมือสวดมนต์ แต่ยังไม่ทันถึงสิบคำ นายไก่ก็ร้องโอยออกมาอย่างแรง แล้วก็สลบไป
เมื่อ หันไปดูก็เห็นมือคนขนาดใหญ่ทุกคนตกตะลึงพอตั้งส ติได้ก็ช่วยกันนำร่างนายไก่ออกมา ปฐมพยาบาลที่โรงพยาบาลระยองจนอาการดีขึ้น แต่ก็ยังเพ้อไปต่างๆนานา พวกตนเองจะไม่เข้ามาอีกแล้วน่ากลัวมาก ไม่ลบหลู่อีกแล้ว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวและทีมงานรายการเดอะช็อก ได้เข้าไปสำรวจจุดที่เกิดเหตุได้พบว่ามีสายสิญจน์โรย ยาวจากประตูทางเข้าด้านหลังไปจนถึงห้องดับพักจิ ต ปลายสายสิญจน์มีธูปที่จุดไฟแล้วตกอยู่กระจายและมีรอย เทียนหักเกลื่อนด้วย เชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่กลุ่มดังกล่าวเข้ามาลองของจน เจอดี
เวลาไล่ เลี่ยกัน กลุ่มวัยรุ่นได้ช่วยกันหิ้ววัยรุ่นคนหนึ่งลงมาจากทาง หน้าโรงพยาบาลผีสิง โดยวัยรุ่นคนดังกล่าวร้องโอดโอยและเอามือกดหัวตัวเอง ไว้ และรีบไปส่งโรงพยาบาลระยอง เป็นรายที่สอง ซึ่งเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ก่อนที่เพื่อนจะโดนผีหลอกจนเสียสตินั้น พวกตนได้ใช้ไฟฉายส่องไปตามจุดต่างๆ ของตัวโรงพยาบาลร้าง เห็นแต่คนเต็มไปหมด
จึงคิดว่าอย่างนี้ไม่มีผีแน่ๆ เพราะมีแต่คนเดินมาเที่ยวแน่นขนัด จึงตะโกนออกไปว่าแน่จริงออกมาสิโว้ย ก่อนที่จะหยิบไฟฉายเดินเข้าไปในโรงพยาบาล
พร้อมกัน 3 คน หลังจากเดินเข้าไปชั้น 3 ข้างหลังเพื่อนตนเองที่ช็อกนั้น ได้ยินเสียงเหมือนมีแผ่นฝ้าเพดานหล่นลงมาจึงหันไปดูเ พื่อนตนเองก็ร้อง
ออก มาเสียงดังว่า โอ๊ย ช่วยด้วยมือใหญ่บีบหัว จากนั้นก็วิ่งเอามือกุมหัวไปอย่างเร็ว ต่อหน้าชาวบ้านที่เดินทางมาดูกันหลายร้อยคนทำเอาวิ่ง หนีกัน
แตกตื่นออกมาจากโรงพยาบาลอย่างอลหม่าน
ขณะ เดียวกันทีมงาน รายการเดอะช็อกเจอดีอีก โดยขณะที่สายตาทุกคนของทีมงาน 7 คน กำลังจะเปิดห้องพักศพชั้นล่าง เพื่อถ่ายภาพ ทุกคนฉายไฟไปที่ลูกบิดกุญแจ ปรากฏว่ามีเสียงดังของลูกบิดคล้ายกับมีคนเปิดออ กให้ ได้ยินอย่างแรงทีมงานทุกคนจึงวิ่งล้อมห้องดังกล่าวไว ้ เพื่อจะได้ดูว่ามีคนอยู่ข้างในหรือไม่ แต่เมื่อเปิดออกดูพบว่าเป็นห้องทึบ ไม่มีคนอยู่ข้างในทำให้ขนหัวลุกไปตามๆกัน
ด้านนายประวิน ชุติมาวรพันธ์ อดีต ผอ.โรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลผีสิงที่เป็นข่าวเกรียวกราวอยู่ขณะนี้บ อกว่า ตนเองเป็นเจ้าของโรงพยาบาลดังกล่าว แต่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน จึงอยู่ต่อไปไม่ได้ ส่วนเรื่องผีที่ชาวบ้านร่ำลือกันนั้นตนเองขอยืนยันว่ าเป็นความจริงเพราะสมัยที่ตนเองเป็นผู้อำนวยการอยู่น ั้นก็เฮี้ยนอยู่แล้ว
เคยมีนายแพทย์คนหนึ่ง เดินมาถามผมว่าวันนี้มีรายการอะไร เพราะเห็นแต่คนแต่งชุดไทยสไบเฉียงกันหมด แต่ก็ไม่ได้มีงานอะไร ส่วนเรื่องยาม
นั้น มีมาเล่าให้ตนเองฟัง ยามที่มาเฝ้าเจอกันทุกราย มีมือขนาดใหญ่ออกมาให้เห็นบ้าง มีเด็กร้องไห้บ้าง เห็นรถเข็นคนไข้เข็นเองบ้าง ผวาจนอยู่ไม่ได้ สำหรับตนเองนั้น ก็ยังมีกิจการบริเวณดังกล่าวอยู่ด้วย และขอยืนยันว่าไม่เคยคิดแม้แต่น้อยที่จะเก็บค่าเข้าด ู เพราะตนเองรักคนระยองให้ชาวบ้านเข้าไปเที่ยว และศึกษาเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับโรงพยาบาล แต่ขอร้องว่าอย่าไปท้าทาย ตนเองนั้นเจอกับตัวแล้ว อย่าไปลบหลู่เขา

ผีมี4ชนิดคือ

1. ผีสิง ( Haunting Ghosts )
           ผีชนิดนี้ มีนิสัยชอบโชว์ตัววันละหลาย ๆ รอบ อย่างน้อย ๆ ก็ 3 เวลาหลังอาหาร และก่อนนอน
แต่ชอบปรากฏตัว ในสถานที่เดียวซ้ำ ๆ ซาก ๆ เช่น บ้านร้าง ดูเผิน ๆ แล้วก็คล้าย ๆ กับว่า เป็นเจ้าของตึก
ที่เดินไปเดินมาธรรมดาในบ้าน แต่คนเราดันผ่านเข้าไปเห็นเอง ผีชนิดนี้ เป็นผีชนิดที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาหลอก
มาหลอนใคร ๆ ซะหน่อย

2. ผีคนเป็น ( Ghosts of the Living )
           ผีรายนี้มาแปลก เพราะตามบันทึก ของคนหลาย ๆ รายแล้ว ผู้ประสบเหตุมักยืนยันว่า เห็นคนที่
ตัวรู้จัก ซึ่งขณะนั้น เจ้าตัวอยู่ห่างออกไป หลายพันไมล์ มาปรากฏให้เห็น ส่วนมากผู้ที่มาปรากฏนี้ มักเป็นคน
เจ็บใกล้ตาย หรือผู้ที่กำลัง ประสบปัญหาวิกฤตอยู่ เลยมาปรากฏตัว เพื่อขอความช่วยเหลือ อาจจะถือได้ว่า
เป็นปรากฏการณ์ทางจิตอย่างหนึ่ง ผีคนเป็นนี้ มันมักจะมาปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

3. ผีมีห่วง ( Purposeful Ghosts )
           มักจะเป็นผีชนิดที่มี " ความในใจ " อยากจะบอกให้เพื่อน หรือญาติรับรู้ เรียกได้ว่า เป็นผีประเภท
นอนตายตาไม่หลับ ก็ว่าได้ ผีแบบนี้ มักจะออกมาปรากฏตัวแบบเป็นใบ้ ไม่พูดไม่จา ชี้โน่นชี้นี่ลูกเดียว หรือบางที
อาจจะมาชี้ขุมทรัพย์ ที่ซ่อนไว้ให้ทายาทได้รับรู้ ( ผีอย่างงี้ น่าจะมาหาเราบ้างเนอะ )

4. ผีหลอก ( Poltergeists )
           เป็นผีที่เล่น ที่ชอบออกมาหลอกมาหลอนคนเป็น ๆ ให้ตกใจเล่น บางทีก็เรียกได้ว่าเป็น ผีโรคจิต
เพราะชอบขว้างปา ข้าวของให้ตกใจเล่น ผีประเภทนี้ นักวิเคราะห์ผีบางราย สันนิษฐานว่า อาจไม่ใช่ผี แต่ว่าเป็น
ปรากฏการณ์ทางจิตชนิดหนึ่ง ของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะจากการสังเกตแล้ว พบว่า ในเหตุการณ์ ผีอาละวาด
แบบนี้ มักจะมีวันรุ่น อายุราว 12-16 ปีอยู่ในที่เกิดเหตุเสมอ จึงอาจเป็นไปได้ที่ จิตของวัยรุ่น ซึ่งมีอารมณ์รุนแรง
นั้น จะสร้างพลังงานพิเศษขึ้นอย่างหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกยาก ๆ ว่า Psychokinesis ( PK ) ซึ่งสามารถเคลื่อนที่
วัตถุได้

ผีโรงแรม !!

เมื่อประมาณต้นปี  2541  ผมเคยเจอประสบการณ์ขนหัวลุกมาเล่าให้ฟัง  มันเป็นเรื่องที่เคยมีคนเจอ
มาแล้วมากมาย แต่ต่างเวลาและสถานที่   เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งกลางใน เมืองนครปฐม  
อันที่จริงเรื่องนี้คงไม่เกิดถ้าไม่ใช่เพราะความใคร่ของหนุ่มสาว

ปกติผมเป็นคนที่สนใจในเรื่องของข่าวสาร  จึงได้รู้ข่าวเรื่องการตายที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งนี้จาก
หนังสือพิมพ์บ่อย ๆ ส่วนใหญ่เป็นการตายเกิดจากหัวใจวายขณะมีเพศสัมพันธ์  แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เป็นการ
ฆาตรกรรม    คือฝ่ายหญิงถูกบีบคอตายและหมกศพไว้ใต้เตียง

วันนั้นผมนัดกับสาวไปเที่ยวที่สวนสามพรานต่อที่ฟาร์มจรเข้และสุดท้ายจบลงที่โรงแรม  ในตอนแรก
ผมรู้สึกสังหรณ์อยู่ในใจ เพราะรู้ว่าที่โรงแรมนี้ได้มีคนตายมาก  แต่คิดว่าคงจะไม่ดวงดีขนาดนั้นเพราะมีตั้งหลาย
ห้องด้วยกัน

ผมตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเห็นห้องที่สองว่าง จึงตกลงที่จะเปิดห้องนั้น  หลังจากที่เปิดห้อง
แล้วก็ให้  ฝ่ายหญิงไปอาบน้ำ   ขณะที่ผมดูหนังเห็นเธอเปิดประตูแย้มหน้าออกมาดูและปิด
ไปอีก   พอเธออาบเสร็จก็ออกมาถามว่า  "เมื่อกี้นี้เคาะประตูหรือเปล่า ..? " 
ผมตอบว่า  "เปล่า  ไม่ได้เคาะ"  เธอบอกให้ปิดทีวี ห้องทั้งห้องจึงอยู่ในความมืด   เพราะผม
ไม่ได้เปิดไฟตั้งแต่ทีแรก   ในขณะที่เรามีอะไรกันนั้น   ผมมีความรู้สึกว่า  เหมือนมีใครมาบีบคอ
อยู่แผ่ว ๆ ผมหันไปก็ไม่เห็นใคร  ในความรู้สึกเหมือนมีผู้หญิงยืนอยู่รอบข้างเต็มไปหมด  แต่เป็นคน ๆ
เดียวกัน   แล้วผมก็พบกับความว่างเปล่าเมื่อหันไปดูอีกครั้ง

พอเสร็จภารกิจผมบอกให้เธออาบน้ำแล้วผมก็เข้าไปอาบต่อ อาบได้สักพักเธอก็ร้องว่า "เปิด เปิด
เปิด!!!!! " พร้อมทั้งเคาะประตูเสียงดัง  ผมตกใจรีบออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น   เมื่อเปิดประตู
เธอบอกว่าทีวีดับแต่เมื่อผมมองออกไป ก็พบว่ามันยังเปิดอยู่  เพื่อให้เธอสบายใจผมจึงเดินไปเปิดไฟเอาไว้   
แล้วเหตุการณ์อย่างนั้นก็เกิดขึ้นอีกครั้ง   คราวนี้ผมเห็นโทรทัศน์ดับจริง ๆ   แต่ไฟยังเปิดอยู่

เธอกลัวมากจึงขอเข้าไปอยู่ในห้องน้ำด้วย ผมก็ให้อยู่โดยในใจก็คิดว่าเธอคงจะใช้มายา ขณะที่ผมอาบน้ำ
ผมเห็น มือเธอสั่นทั้งสองข้างและประคองประสานอยู่ที่หน้าอกแน่น   ตามองผมไม่กะพริบ   ก่อนออกจากห้องน้ำ
สายตาผมเหมือนเห็นอะไรแว่บๆ ในกระจก แต่พอมองไปก็คิดว่ากระจกบานนี้น่ากลัวมาก  เรากลับไปที่เตียงปิดไฟ
และเปิดทีวีอีกครั้ง  แฟนผมยังมีอาการหวาด  ๆ อยู่ผมจึงพูดหยอกล้อให้เธอคลายความกังวลลงบ้าง   แล้วเรา
ก็เริ่มเกมกันต่อ

แล้วความรู้สึกเดิม ๆ ก็กลับมาอีก   แต่คราวนี้มีเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูห้องน้ำ   แต่พอหันไป
ก็ไม่มีใครอยู่  เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง      ตอนนั้นใจคอของผมไม่ค่อยดีพอหันไปหาเธอก็เหมือน
ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไร  ต่อมาก็มีเสียงมาจากลูกบิดประตู  คิก  คิก  อี้ด !!! คราวนี้ได้ยินทั้ง  2  คน   
ผมเดินออกไปดูเพราะคิดว่าบ๋อยมาเรียกแต่พอเปิดก็ไม่พบใคร   และผมก็คิดได้ว่าผมลงกลอนไว้
เรียบร้อยแล้ว จึงหันไปถามแฟนว่า    "ได้ยินเสียงคนเปิดประตูไหม ?"  เธอก็บอกว่าได้ยิน

สิ้นเสียงเธอโทรทัศน์ก็ดันฉายหนังขึ้นอีก   ดังมากจนผมสะดุ้งโหยง  ส่วนเธอปล่อยกรี๊ดลั่นห้อง
ปากก็ตะโกนว่า "... ผี.!!!!.. "  ผมรีบเอามืออุดปากเธอและรีบบอกเธอและรีบบอกให้ใส่เสื้อผ้า

โอ๊ย....ผมกับเธอแทบหมดลมหายใจ  มี  เสียงผู้หญิงหัวเราะดังมาจากทุกมุมห้อง    ทำให้หัวใจผม
แทบวายตายไปเลย  เราสองคนคว้ากางเกงเสื้อผ้าผิด  ๆ  ถูก ๆ ไปหมด    พอออกจากห้องได้ผมถอนหายใจ
พร้อมกับเอามือจับหน้าอกโล่งเหมือนได้พ้นจากขุมนรกมาแล้วแต่แล้วก็ต้องใจหายแวบเพราะผมลืมสร้อยพระ
ไว้ที่โคมไฟหัวเตียง   ผมรีบกลับรถเมื่อไปถึงพอดีกับที่บ๋อยกำลังจะเข้าไปทำความสะอาด  ผมจึงรีบเดินเข้าไป
หยิบสร้อยและพูดกับบ๋อยว่า " น้อง ๆ  พี่ว่าห้องนี้มันมีอะไรแปลก ๆ   นะ "    บ๋อยได้ยินก็ทำท่างง ๆ

หลังจากนั้นประมาณปลายปี   2541 ผมมีโอกาสเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ ฟัง  พอเล่าจบ
เพื่อนรุ่นน้องก็เล่าให้ฟังว่าเธอกับแฟนไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง     เมื่อปี  2540    แต่ก่อนที่จะมี
อะไรกัน   เธอได้กลิ่นอะไรเหม็นเน่า เธอกับแฟนพยายามหาแต่หาไม่พบ   เธอจึงเรียกบ๋อยมาดู
ก็พยายามหากัน   และก็รื้อไม้กระดานเตียงขึ้นเท่านั้นแหละครับ  
ทุกคนตะลึง..!!!! อ้วกแตกอ้วกแตนกันไปตาม ๆ กัน
สิ่งที่เห็นนั้นเป็นศพผู้หญิงตาถลนหลุดออกมาห้อยใกล้  ๆ  กับแก้ม !!! หน้าตาเนื้อตัวอืดบวมจน
แทบจะระเบิดออกมาเป็นปริ ๆ หนอนใต่กันยั้วเยี้ยเต็มไปหมด  เล่นเอาหมดอารมณ์
เธอบอกว่าต้องไปเป็นพยานเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟังอีก   แถมยังได้ลงชื่อในหนังสือพิมพ์อีก ผมถาม
เธอว่าที่ไหน เธอบอกผม ใจหายวาบไปเลย  เพราะห้องที่ผมกับเพื่อนสาวไปนอนกันนั้นเป็นห้องเดียวกับห้องที่เธอ
พบศพ..!!!!!!

น้ำแช่ศพ !!

เจ้าของหอพักทำใจขาดทุน หลังพบศพในถังน้ำ ชาวหอสยอง อาบน้ำ-ใช้น้ำ "แช่ศพ" หนุ่มโรงงานขยะแขยงจนต้องซื้อยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดร่างกาย
แม้ เหตุการณ์จะผ่านไป 3 วันแล้ว ทว่าบรรยากาศในหอพักพัชรินทร์ เลขที่ 82/286 ซอยไทยธานี 31 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก็ยังคงเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบถึงเรื่องราวสยองขวัญเมื่อวันวาน
"ราตรี หมั่นดี" สาวคาราโอเกะ วัย 26 ปี ย่านวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกฆาตกรรมแล้วนำศพไปทิ้งไว้ในถังเก็บน้ำบนดาดฟ้า จะนานเท่าไรไม่ทราบได้ แต่ร่างของเธอถูกค้นพบเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นอีก 3 วัน ตำรวจก็สามารถจับกุม "อริยธัช โกมลเกษรักษ์" วัย 25 ปี ซึ่งสารภาพว่า สาเหตุมาจากบันดาลโทสะ
หอพักรวมชาย-หญิง 4 ชั้น 31 ห้อง ที่เคยคลาคล่ำไปด้วยผู้คน มาบัดนี้เงียบเหงาวังเวง เพียงชั่วข้ามคืนข่าวพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมแล้วหมกศพไว้ในถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตรบนดาดฟ้า นานกว่า 3 วันจึงมีคนระแคะระคายและล่วงรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่าง รุนแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนชั้น 3-4 ซึ่งอยู่ติดใกล้ชิดเหตุการณ์มากที่สุด ถึงวันนี้แทบทุกห้องว่างร้างผู้คน แม้ว่า "สมพร สัตย์ซื่อ" เจ้าของหอพัก วัย 49 ปี จะเปลี่ยนถังเก็บน้ำใบใหม่และเปลี่ยนระบบท่อน้ำใหม่ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยไป หมาดๆ แล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันก็เปิดไฟฟ้าตลอดทั้งหอพัก โดยเฉพาะชั้น 3-4 แม้จะไม่มีคนเช่าก็เปิดไฟให้แสงสว่างตลอดทั้งคืน เพื่อสร้างความสบายใจและขวัญกำลังใจแก่คนเช่าและตัวเอง จากนั้นจะนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป
"ตอนนี้ยอมขาดทุน ยอมเสียค่าไฟ เปิดตลอดทั้งชั้น 3-4 แม้จะไม่มีคนเช่า ฉันเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เข้าใจความรู้สึกของคนเช่าดี"
ด้วย ค่าเช่าที่ค่อนข้างถูก ตกเดือนละ 1,600 บาท ห้องขนาดไม่เล็กแคบจนเกินไป ทำให้ผู้เช่าหลายคนที่ย้ายออกไปนับตั้งแต่เกิดเรื่องลังเลที่จะกลับเข้ามา อยู่อีกครั้ง บางคนจ่ายเงินค่าจองเอาไว้ล่วงหน้ารอเวลาที่เจ้าของหอจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ระบบท่อน้ำในหอก่อน
ทว่าก็มีบางคนที่ทำใจยังไม่ได้กับเรื่องราวขนพอง สยองเกล้าที่เกิดขึ้นกับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่รู้ว่าใช้น้ำ-อาบน้ำจากถังเก็บน้ำที่มีศพคนตายแช่ อยู่จนเน่าเหม็น !?!
เอก หนุ่มโรงงานวัย 27 ปี ยืนกระต่ายขาเดียวว่า อย่างไรเสียก็จะไม่กลับไปอยู่ที่หอพักเดิมอีก แม้ห้องเช่าแห่งใหม่จะเล็กแคบไม่เหมือนที่เก่า แต่ก็ยังพออยู่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"ผมเป็นผู้ชายมีความ อดทนนะ แต่บางสิ่งมันก็เกินความคาดหมาย เราอาบน้ำมารู้ทีหลังว่ามีศพคนตายอยู่ในถังเก็บน้ำก็รู้สึกขยะแขยง เพราะน้ำมันแช่ศพอยู่ หลังจากย้ายไปอยู่ที่ใหม่ผมไปซื้อยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดร่างกายเลยนะ เพราะไม่รู้ว่าศพแช่อยู่ในน้ำมันจะมีเชื้อโรคอะไรหรือเปล่า รู้สึกรับไม่ได้"
หนุ่มโรงงานวัย 27 ปี รู้ว่ามีผู้เช่าหลายคนที่จะกลับไปอยู่ที่เดิม แต่เขาเชื่อว่าคงไม่ใช่ห้องเลขที่ 31 ที่เกิดเหตุ !?!
แม่ ค้าขายของใกล้กับหอพักพัชรินทร์เป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกของผู้เช่าได้ อย่างดี เล่าว่า หลังเกิดเหตุผู้เช่าหลายคนมาซื้อของที่ร้านและบอกเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น ชนิดพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าน้ำที่ใช้อาบ ใช้แปรงฟัน นั้นมีศพคนตายแช่อยู่ กระทั่งน้ำเริ่มมีกลิ่นเหม็นและเป็นฟอง ก่อนจะจบลงด้วยความจริงที่เปิดเผยออกมา พวกเขาและเธอเลยต้องย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่
แต่สำหรับ นิด สาวโรงงานวัย 28 ปี กลับมีมุมมองแตกต่างออกไป เธอกับเพื่อนอีกบางคนยังคงปักหลักพักอาศัยอยู่ที่หอพักพัชรินทร์ แม้จะรู้สึกขยะแขยงบ้างเมื่อรู้ว่าน้ำที่เคยอาบเคยใช้มีศพคนตายแช่อยู่นาน ถึง 3 วัน โดยเธอให้เหตุผลแก่ตัวเองและ "คม ชัด ลึก" ว่าคนตายมาจากที่อื่น ไม่ได้พักอยู่ที่นี่ จึงไม่มีความรู้สึกด้านความสัมพันธ์ ประกอบกับเศรษฐกิจยุคนี้ยากจะหาหอพักในราคาขนาดย่อมเยาเช่นนี้ได้ "ฉันเช่าอยู่ชั้น 1 ส่วนเพื่อนพักอยู่ชั้น 2 แรกๆ ก็หวั่นใจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าจากนี้ไปคงไม่มีปัญหาอะไร สักพักคงมีคนเข้ามาเช่าเหมือนเดิม" ระหว่างการเปลี่ยนถังเก็บน้ำใบใหม่และเปลี่ยนระบบท่อน้ำใหม่ทั้งหมด สมพรเจ้าของหอได้นำน้ำดื่มถังใหญ่มาวางไว้ให้ผู้เช่าที่หลงเหลืออยู่น้อยนิด นำไปใช้อุปโภคบริโภคไม่จำกัดจำนวน โดยตั้งวางไว้ที่หน้าหอพัก ใครใคร่หยิบไปดื่มกินหรืออาบชำระล้างร่างกาย ล้างถ้วยล้างจานเท่าไรก็ยกไปได้ตามแต่ใจต้องการ และนี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สมพรบอกว่า ถึงอย่างไรช่วงนี้ก็จะยอมขาดทุน

8วิธี เห็นผี

++++8 วิ ธี เ ห็ น ผี สุ ด เ ฮี้ ยน++++
เค้าบอกว่า 50 % เห็นมาแล้ว
แต่ก้อไม่รู้จิงเท็จแค่ไหน
ก้อใช้วิจารณญาณ ดูกันเอาเองแล้วกัน

ข้าน้อยเห็นบางวิธีก้อเป็นวิธีที่แปลกจากที่เคยอ่านๆมานะ
ไม่น่าเชื่อ ว่าจะเห็นได้ด้วยหรือ
แต่ก็น่ะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ลองอ่านดูแล้วกัน


.......ข้อปฎิบัติ........
• ทุกวิธีต้องทำระหว่าง 4 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน และต้องไม่เลย
เที่ยงคืนเพราะจะถือว่าเป็นวันใหม่
•ทุกวิธีห้ามใส่พระยกเว้นวิธีที่ 8
•วันที่ทำแล้วมีโอกาสเห็นได้ง่ายสุดคือวันพุธและ วันศุกร์
และวันอาทิตย์
•ทุกวิธีอาจจะให้คนอื่นอยู่ด้วยก็ได้ยกเว้นบางวิธีที่จะระบุบว่าคุณต้องทำคนเดียว
•ทุกวิธีต้องหลับตาหากคุณเปลี่ยนใจไม่อยากเห็น ให้เอาอุปกรณ์ทุกอย่างออก แล้วค่อยลืมตา



*วิธีที่1* “มองลอดใต้หว่างขา” (เห็นผี 21 คน)
1. นำใบไม้ (จากต้นใดก็ได้) ที่ร่วงลงมาจากต้นไม้ ต้องเป็นของต้นนั้นจริง ๆ และร่วมลงมาไม่ห่างจากลำต้นมากนัก หากอยู่ใกล้รากจะยิ่งดี
2. ยืนในที่โล่ง และต้องมองเห็นพระจันทร์ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหันหลังไปทางทิศตะวันตก (เพื่อเวลาก้ม
จะได้ก้มไปทางทิศตะวันตก
3. นำใบไม้ที่เก็บมา เอาไว้ในฝ่ามือ (จะทำมืออย่างไรก็ได้ แต่ห้ามพนมมือ)
4. หมุนตัวตามเข็มนาฬิกา (หมุนซ้าย) ช้า ๆ เมื่อมาหยุดที่เดิม (ทิศตะวันออกที่หันหน้าไว้ตั้งแต่แรก) ให้ท่องว่า
“พุทโธทายะ” (เหมือนผีถ้วยแก้วเลย) ทำแบบนี้ 3 รอบ (ท่อง 3 ครั้งด้วย)
***เพื่อให้เห็นภาพ*** รอบที่1 ยืนหันไปทางทิศตะวันออก หมุนซ้ายไปจนมาหยุดที่จุดเริ่มต้นแล้วท่องว่า
“พุทโธทายะ” และทำต่อไป รอบที่ 2 และรอบที่3
5. หลับตานึกถึงใบไม้ที่อยู่ในมือ กับต้นเจ้าของใบไม้ แล้วให้คิดว่าใบไม้ในมือ คือพลังงานอย่างหนึ่งที่จะเรียกวิญญาณมาได้ และนึกเอาว่าใบไม้นี้ได้ตายไปแล้วจึงได้หลุดมาจากต้นไม้ เพราะฉะนั้นเราติดต่อกับวิญญาณได้
เหมือนที่ติดต่อกับใบไม้ที่ตายแล้วใบนี้
6. ค่อย ๆ ก้มหน้าลง (ระหว่างนี้ห้ามลืมตาเด็ดขาด) เมื่อคุณก้มและพร้อมแล้ว “ให้ตั้งสติดี ๆ” แล้วลืมตา
7. แล้วผีจะมาให้เห็น



***หากเห็นอะไรห้ามวิ่ง ไม่ว่าสิ่งที่เห็จะอยู่ไกล หรือมาประจันหน้าก็ตาม ต้องทำตามนี้ก่อน***
1. เงยหน้าขึ้น ทิ้งใบไม้ลงพื้นทันที
2. หมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา (หมุนย้อนกลับไปทางขวานั่นเอง) 3 รอบ โดยไม่ต้องท่องอะไรเลย
3. เมื่อกลับถึงบ้านต้องล้างหน้า 3 ครั้ง ก่อนล้างให้ท่อง “พุทโธ” แล้วเป่าลมลงน้ำจึงค่อยล้างหน้าทำแบบนี้ 3 ครั้ง ::



*วิธีที่2* “ตัดเล็บตอนกลางคืน” (เห็นผี 12 คน)
***ขอย้ำเลยวิธีนี้ ต้องทำระหว่าง 4 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน เพราะต้องไม่ให้โพล้เพล้ หรือ เป็นวันใหม่”***
1. ตัดเล็บมือเท่านั้น โดยเริ่มจากนิ้วก้อย ,นิ้วโป้ง ,นิ้วนาง ,นิ้วชี้ และนิ้วกลาง (ตัดจากนอกเข้าในนั่นเอง)
โดยเริ่มตัดจากมือขวาก่อน และทำแบบเดียวกันกับมือซ้าย
*เล็บที่ตัดห้ามหักหรือขากเด็ดขาดต้องเป็นโค้งตามรูปเล็บ มิเช่นนั้นจะไมได้ผล*
2. น้ำเศษเล็กที่ตัดห่อใส่ผ้าอะไรก็ได้แต่ต้องเป็นสีดำ (ต้องใช้แล้ว ไม่ใช่ผ้าใหม่)
3. นำไปวางไว้ทางทิศตะตก (เช่นเคย) ของที่พักอาศัย
4. เมื่อคุณเข้านอนได้ไม่นาน จะมีคนมานั่งตัดเล็บอยู่ตรงปลายเท้าที่คุณนอน (เสียงดัง “แก๊กๆ” นั่นแหละ) เป็นการตัดเล็บของเค้ามาคืนคุณ
5. ถ้าอยากเห็นก็ลืมตาแต่ห้ามโวยวาย เพราะเขาจะไปแล้วคุณอาจจะซวยได้ (เพราะถือว่าเค้ามาดี โดยที่เขาคิดว่าเราเอาเล็บไปแลก หรือไปเล่นกับเขา แล้วเขาก็เลยเอาของเขามาคืน
6. เมื่อคุณตื่นในตอนเข้า ให้ไปยังจุดที่คุณเอาเล็บไปวางไว้ คลี่ห่อผ้าออก จะพบเล็บของคนอื่นไม่ใช่ของคุณ
7. ให้คุณพูดเบา ๆ ว่า “ขอบคุณ” แล้วเอาไปฝังไว้ที่ใดก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่พักอาศัยของคุณ (แต่ห้ามทิ้งหรือเผาโดยเด็ดขาด)




*วิธีที่3* “หันหลังให้กระจกแล้วกลืนน้ำลาย” (เห็นผี 16 คน)
- วิธีนี้ต้องทำคนเดียวเท่านั้น
- วิธีนี้ต้องทำก่อนเที่ยงคืน 6 นาที
- นาฬิกาที่คุณใช้เป็นเกณฑ์ในกาวัด ให้ยึดเรือนใดเรือนหนึ่งในบ้านได้เลย
1. ยืนหันหลังให้กระจก (ครั้งนี้จะทิศใดก็ได้) ตอนเวลา 5 ทุ่ม 54 นาที
2. กลืนน้ำลาย 1 ครั้ง ทุก ๆ 1 นาที
3. พอครบ 6 นาที หมายความว่าคุณกลืนน้ำลายไปแล้ว 6 ครั้ง และถึงเวลาเที่ยงคืนพอดี
4. หลับตาแล้วหันไปทางกระจก (จะหันซ้ายหรือขวาก็ได้แต่ช้า ๆ) แล้วกลืนน้ำลายอีกครั้ง (เป็นครั้งที่7)
แล้วลืมตา และผีจะมาให้เห็น
5. เมื่อคุณต้องการยุติพิธี ให้หลับตากลืนน้ำลายอีกครั้ง เป็นอันจบพิธี




*วิธีที่4* “ดีดลูกคิดตอนกลางคืน” (เห็นผี 32 คน)
- ลูกคิดที่ใช้ดีด ให้ดีดอันที่มีรางยาวที่สุดเท่านั้น
- ต้องอยู่คนเดียว เพราะต้องใช้สมาธิอย่างมาก
1. ให้ลูกคิดทุกลูก ในทุกรางอยู่สุดรางที่หันมาหาตัวเรา
2. ดีดีลูกคิดขึ้นโดยให้ลูกคิดออกจากตัวทีละลูก(ต้องมีสมาธิมากๆ) ไล่ไปตั้งแต่รางแลก ไปจนรางสุดท้าย
3. ตั้งสมาธิให้ดีอย่างมาก แล้วจับรางลูกคิดตั้งขึ้น ให้ลูกคิดวิ่งกลับมาที่เดิมในตอนแรก
4. มองรอดช่องรางลูกคิด(รางใดก็ได้) แล้วผีก็จะมาให้เห็น
5. หลังจาการทำเรียบร้อยแล้ว ให้ทิ้งลูกคิดนั้นทันที *ห้าม* นำกลับมาใช้อีกเป็นเป็นอันขาด
*วิธีที่5* “เอามุ้งคลุมหัวตอนกลางคืน” (เห็นผี 6 คน)
1. เอามุ้งมาครอบหัวไว้ (หลับตาตั้งแต่ก่อนคลุมแล้ว)
2. ท่อง มะ-อะ-อุ 7 ครั้ง (อย่าลืมว่าต้องหลับตา)
3. ลืมตา แล้วผีจะมาให้เห็น




*วิธีที่6* “ใส่เสื้อกลับแล้วนอนห้อยหัว” (เห็นผี 31 คน)
- ต้องทำคนเดียว
1. ใส่เสื้อโดยการเอาข้างหลังมาอยู่ข้างหน้า (ถ้ามีกระดุม ก็เอากระดุมไว้ขางหลังนั่นเอง)
2. นอนลงบนที่นอนที่สูงกว่าพื้น แล้วห้อยหัวลงมอง (เหมือนแหงนหน้า)
3. แล้วผีจะมาให้เห็น




*วิธีที่7* “แหงนหน้ามองตรงบันได” (เห็นผี 42 คน)
- ต้องทำคนเดียว
1. นั่งบนบันไดชั้นบนสุด แล้วลงมาทีละขั้นทั้งที่ยังนั่งอยู่ (ใช้ก้อนลงบันได้นั่นเอง)
2.เมื่อถึงขั้นสุดท้าย ให้ยังคงนั่งอยู่ที่ขั้นสุดแล้ว แล้วจึงแหงนหน้ามองกลับขึ้นไปชั้นบนสุด
3. แล้วผีจะมาให้เห็น



*วิธีที่8* “สวมพระกลับหลัง” (เห็นผี 28 คน)
- ต้องทำคนเดียว
1. สวมพระโดยคล้องสร้อยพระไว้ด้านหลัง(ให้เหมือนที่อยู่ด้านหน้าเลย)
2. ยื่นแขนซ้ายออกไปข้าง ๆ แล้วทำมุมข้อศอกโดยให้กำปั้นทิ่มลงพื้น และให้ข้อศอกตั้งฉากกับพื้น
3. มองลอดผ่านช่องแขน แล้วจะเห็นผี